แง่มุมสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม...การดำรงชีวิตของช้างในผืนป่าแห่งนี้ หมายถึงข้อยืนยันถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าภาคตะวันออก โดยเฉพาะผืนป่าจันทบุรี
ไฉน? หน่วยงานรัฐ มองไม่ออกว่าพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ชั่งน้ำหนักระหว่างนายทุนกับสัตว์ป่า...ใครควรมีสิทธิ์เข้าไปอยู่อาศัย
ย้อนเวลากลับไป...วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2550 สกู๊ปหน้า 1 หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ พาดหัวข่าว “โฉนดป่าต้นน้ำสะตอ ปาฏิหาริย์...มีจริง” แสดงความไม่ชอบมาพากลต่อหน่วยงานรัฐ มีการออกโฉนดปาฏิหาริย์ให้กับกลุ่มนายทุน
เข้าไปครอบครอง แสวงหาผลประโยชน์
ชาวบ้านในพื้นที่ต่างกังขา “ป่าอุดมสมบูรณ์ ทำไม? นำไปออกโฉนดได้”
ยิ่งไปกว่านั้น...กลุ่มนายทุนที่ได้รับสิทธิโฉนดปาฏิหาริย์ ไม่ได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่เพื่อต้องการอนุรักษ์ป่า แต่กลับเข้าไปทำลายป่าอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
กลุ่มนายทุนมักอ้างว่า “ตัดไม้ในพื้นที่โฉนด...ไม่มีความผิด”
ฝั่งชาวบ้านในพื้นที่ต่างทราบดีว่า กลุ่มนายทุนนั้นไม่ได้ตัดไม้ในพื้นที่โฉนดของตัวเอง แต่ใช้เครื่องจักรหนักบุกไปตัดไม้นอกพื้นที่โฉนด ซึ่งเป็นผืนป่าอนุรักษ์
ผ่านไปไม่นาน พบข้อมูลอีกว่า “โฉนดปาฏิหาริย์ฉบับนี้มีนายทุนเข้ามาเกี่ยว 3 คน คนแรก...เป็นข้าราชการระดับสูง สำนักงานใหญ่อยู่ใกล้ๆ คลองหลอด คนที่สอง...เป็นนักการเมืองที่เก่าแก่ทั้งตัวและพรรค คนที่สาม...เป็นผู้หญิง มีคำขึ้นต้นหน้าชื่อว่า “คุณ...”
นายทุนเป็นที่รู้จักกันทั่ว แต่ปรากฏชื่อ...เจ้าของโฉนดปาฏิหาริย์ เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา
ข้าราชการในพื้นที่ ส่งข้อมูลพิกัดดาวเทียมจีพีเอส ยืนยัน พื้นที่ของโฉนดปาฏิหาริย์อยู่ที่ N 12 42 57.4 และ E 102 24 47.0 ส่วนค่าพิกัดแผนที่ของทหาร ฉบับใหม่ L7018 อยู่ที่ TV 18080672
ตัวเลขค่าพิกัดทั้งสองแหล่ง แสดงชัดเจน...พื้นที่บริเวณนี้ คือ ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี
ชาวบ้านละแวกนี้เรียกว่า...ป่าเครือหวาย หรือ ป่าต้นน้ำสะตอ อันเป็นผืนป่าอันเดียวกับกรณีของช้างป่า 6 เชือกที่ล้มตาย
นอกจากนั้น ผืนป่าแห่งนี้ ยังเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำหลายสาย ที่ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนทั้งในจังหวัดจันทบุรีและตราด
นับจากวันที่เสนอข่าวมาถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกลับนิ่งเฉย ไม่พิจารณาเพิกถอนโฉนดปาฏิหาริย์สักที
ขบวนการตัดไม้ทำลายป่ายังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซ้ำร้าย...การออกโฉนดปาฏิหาริย์ในพื้นที่ป่าต้นน้ำสะตอ ยังมีอีกกว่า 50 ราย
ที่สำคัญ โฉนดปาฏิหาริย์ทุกฉบับ ยังไร้วี่แววถูกเพิกถอน
สถานการณ์ป่าไม้ในจังหวัดจันทบุรี ใช่ว่าจะน่าวิตกเฉพาะกรณีโฉนดปาฏิหาริย์เท่านั้น กับผืนป่าขุนซ่อง เขตรับผิดชอบ อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ก็มีต้นยางพาราปาฏิหาริย์ เกิดขึ้นในผืนป่าแห่งนี้มากมาย
จ่าขวัญ นามสมมติ ข้าราชการในพื้นที่ บอกว่า ปัญหาข้อแรกของป่าขุนซ่อง นายทุนจำนวนมากเข้ามายึดครองผืนป่า โดยใช้วิธี “ล้างท้อง” ใช้มีดควั่นต้นไม้ให้เป็นแผล แล้วนำสารบางชนิดไปทาที่รอยแผลของต้นไม้
ผ่านไป 45 วัน ต้นไม้ที่ถูกล้างท้องจะยืนต้นตาย...
คนโบราณเรียกว่า ยืนตายพราย
ต้นไม้ตายแล้ว นายทุนจะนำไม้ออกไปขายนอกพื้นที่ แล้วจ้างคนงานเข้าไปถางป่า เพื่อแสดงให้หน่วยงานของรัฐเห็นว่า...พื้นที่ป่าเป็นป่าเสื่อมโทรม แสดงสิทธิเข้ายึดครองนำกล้ายางพารามาปลูก
จ่าขวัญ บอกว่า พื้นที่ป่าขุนซ่องมีการลักลอบปลูกยางในพื้นที่ป่าจำนวนมากทุกแปลง แถมปลูกอย่างเป็นระเบียบสวยงาม โดยทั่วไปพื้นที่ 1 ไร่ ชาวบ้านจะปลูกยางพารา 60-65 ต้น เพราะไม่มีเงินซื้อกล้ายางมากกว่านี้
แต่ยางพาราป่าขุนซ่อง พื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกถึง 100-120 ต้น
ราคากล้ายางพาราวันนี้ สายพันธุ์ 235 ต้นละ 18 บาท สายพันธุ์ทีจี 600 ต้นละ 18 บาท และสายพันธุ์ 244 ต้นละ 17 บาท
คิดเลขกลมๆ ต้นยาง 1 แสนต้น ต้นละ 18 บาท เป็นเงิน 1.8 ล้านบาท
ที่น่าตกใจ จ่าขวัญ รู้มาว่า ต้นยางในป่าขุนซ่องไม่ได้มีแค่ 1 แสนต้น แต่ที่เห็นๆมีมากกว่า 2 ล้านต้น และที่แอบซ่อมอยู่อีกเท่าไหร่ ไม่มีใครกล้าเข้าไปนับ
ปัญหาข้อที่สอง กลุ่มนายทุนยังหาญกล้า ส่งคนเข้าไปเฝ้าที่ดินที่บุกรุก ปลูกบ้านหลังเล็กๆอยู่กลางผืนป่า
ที่ต้องแปลกใจสุดๆ ทุกบ้านมีการออกบ้านเลขที่ถูกต้อง สำรวจสำมะโนประชากร มีกว่า 1,000 หลังคาเรือน
ขั้นตอนการออกบ้านเลขที่ ปกติต้องมีการแสดงโฉนด ถึงจะได้บ้านเลขที่ตัวอักษรสีดำ และบ้านเลขที่ ในเงื่อนไขอื่นๆนั้น เป็นตัวอักษรสีแดง
แล้วก็พบปาฏิหาริย์อีกครั้ง เมื่อบ้านเลขที่ในเขตป่าขุนซ่องทุกหลัง...ตัวอักษรสีดำ
จ่าขวัญ บอกว่า พื้นที่ป่าขุนซ่อง ใช่ว่าจะมีแต่คนที่เข้าไปอยู่อาศัย ในป่ายังมีสัตว์ป่านานาชนิด ช้างป่ามีกว่า 100 เชือก คนเข้าไปแย่งพื้นที่อยู่ ที่กินของช้างป่า ปัญหามากมายจะตามมา โดยเฉพาะ...วันหนึ่งวันใด ถ้าช้างทำลายทรัพย์สมบัติของคนเสียหาย
ช้างป่าเหล่านี้จะมีอันเป็นไป ไม่ต่างกับช้างป่า 6 เชือก...ที่เป็นข่าว
ปัญหาข้อที่สาม อิทธิพลของกลุ่มนายทุนในพื้นที่มีมากล้น ขนาดที่ว่า...ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาตรวจราชการ ยังต้องแวะไปกินข้าวทักทาย ส่วนข้าราชการชั้นผู้น้อยไม่ต้องเอ่ย จะเหลือสักกี่คนที่ไม่ถูกซื้อตัว
ข้าราชการที่ไม่เห็นด้วย มักโดนภัยมืด สถานเบา...ถูกยิงขู่ด้วยอาก้าฯ
ชาวบ้านอยากเห็น “ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ลุกขึ้นมาเป็นแม่ทัพชักดาบขึ้นสู้ นำกองทัพข้าราชการในพื้นที่ที่รักความถูกต้องรบกับกลุ่มนายทุนให้แตกหักกันไปข้างหนึ่ง”
ยิ่งปล่อยเวลาผ่านไป ไม่นานคงจะมีข่าว เจ้าหน้าที่รัฐโดนนายทุนยิงตาย ช้างป่าล้มตายเป็นโขลง...เพราะถูกฟ้าผ่า ไม่ใช่โดนยาพิษ
หรือไม่...ป่าขุนซ่อง ที่เป็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ แปลงสภาพเป็นไร่ยางพาราของกลุ่มนายทุน
พระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานแก่ชาวไทยในอเมริกาฯ ปี 2534 ตีพิมพ์ในหนังสือ “75 พรรษา บรมราชินีนาถ กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม”
“...เดี๋ยวนี้ เนื่องจากป่าไม้ถูกทำลายมาก ก็อยากให้ทุกท่านสนับสนุนการรักษาป่า ไม่ใช่เพื่อรักษาสัตว์ป่าอย่างเดียว แต่เพื่อป่าจะได้เป็นที่เก็บน้ำ น้ำฝน ป่าจะได้เก็บน้ำไว้ใต้ดิน นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งที่เรียกว่ามีพืชต่างๆนานา ซึ่งใช้ เป็นยาสมุนไพร อะไรก็ได้ที่เราจะค้นคว้าได้ และเป็นที่พึ่งของพืชเศรษฐกิจต่างๆ...”
พระราชดำรัส ที่สำคัญ ในพิธีพระราชทานธง “พิทักษ์ป่า เพื่อรักษาชีวิต” มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 31 มีนาคม 2545
“...การที่ทุกท่านตั้งใจจะรักษาป่า ก็แปลว่าท่านทั้งหลายเข้าใจแล้วว่า ป่านั้นเป็นของจำเป็นของประเทศ ป่าเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของประเทศไทย
ถ้าแม้นเราทำลายหรือปล่อยให้เขาทำลายป่าไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ประเทศไทยเราก็จะกลายเป็นประเทศที่ปราศจากน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต
ถ้าแม้ว่าประเทศเรามีเงินมีทองสามารถทำได้ สามารถเอาเงินเอาทองมาต่อท่อใหญ่ และก็ซื้อน้ำจากต่างประเทศมาใช้กัน ซึ่งข้าพเจ้าก็เห็นว่า สิ่งนั้นไม่เป็นสิ่งที่สมควร ที่เราจะต้องไปพึ่งพาอาศัยประเทศอื่นๆเขา ในเมื่อเราเองมีป่า ซึ่งเป็นแหล่งน้ำใหญ่ให้กับเรา ทำมาหากินอย่างอิสรเสรีแล้ว...”
หนังสือเล่มนี้ สมชัย เพียรสถาพร รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จัดทำเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระชนมพรรษา 75 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2550
อนาคต...ชะตาผืนป่าจันทบุรีจะเป็นเช่นไร หากหวังการกลับสำนึก กลุ่มนายทุนไม่ได้ ก็ต้องฝากไว้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องทำหน้าที่สนองคุณแผ่นดิน.
ไทยรัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น